ความร้ายแรง
มะเร็งหลอดอาหารพบได้ไม่บ่อยนัก
แต่มักมีความรุนแรง
เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้กระจายได้เร็ว
และเป็นวงกว้าง
ทําให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในระยะลุกลาม
การรักษาให้หายขาดจึงทําได้ยาก
สาเหตุสําคัญ
พบปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญ
ได้แก่ เชื้อชาติ
(อุบัติการณ์จะสูงกว่าใน
ชาวอิหร่าน โซเวียต และจีน),
สุรา,
บุหรี่,
อาหารบางชนิด,
โรคหลอดอาหารบางชนิด
เช่น อะคาลาเชีย
(ภาวะหูรูดหลอดอาหารไม่คลายตัว)
อาการสําคัญที่ผู้ป่วยต้องรีบมาพบแพทย์
อาการกลืนลําบาก
พบได้มากที่สุด ประมาณ 90%
นอกจากนี้
มักพบว่ามี น้ำหนักลด อาเจียน
เจ็บเวลากลืน ถ้ามีอาการเสียงแหบ
หรือสําลัก แสดงว่ามีอาการลุกลามค่อนข้างมากแล้ว
ดังนั้น ถ้ามี อาการเหล่านี้
ควรปรึกษาแพทย์แต่เนิ่นๆ
เพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง
การตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคและหาระยะของโรคมะเร็งหลอดอาหาร
มักเริ่มด้วยการซักประวัติ
อาการ อาการแสดง รวมถึง
การตรวจร่างกาย
จากนั้นจะทําการส่องกล้องหลอดอาหารเพื่อนําชิ้นเนื้อมาตรวจ
ต่อมาทําเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์
(CT
scan)
เพื่อประเมินระยะของโรค
หลักการรักษา
การผ่าตัดเป็นการผ่าตัดเอาหลอดอาหารส่วนที่เป็นมะเร็งออกไป
มักทําในรายที่ยังมีการลุกลามไม่มาก
การผ่าตัดนี้ต้องอาศัยความชํานาญในการผ่าตัดมาก
ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่เพราะมีการผ่าตัดเข้าทรวงอก
ช่องท้องและคอ
สําหรับผู้ป่วยที่อยู่ระยะลุกลาม
มักให้ฉายแสงร่วมกับเคมีบําบัด
(chemoradiation)
ซึ่งปัจจุบันมีบทบาทมากขึ้นเนื่องจากผลการรักษาดีขึ้นมาก
และกําลังจะเป็นการรักษาหลักในอนาคต
ในรายที่ไม่สามารถผ่าตัดหรือให้
chemoradiation
ได้
มักใส่ลวดขยาย (stent)
เพื่อให้ผู้ป่วยกินอาหารได้
ทําให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ความรู้ที่สําคัญ
เมื่อผู้ป่วยมีอาการกลืนลําบาก
ควรรีบมากพบแพทย์
และทําการตรวจด้วยการส่องกล้อง
การตรวจพบในระยะแรกเริ่มเป็นปัจจัยสําคัญในการรักษามะเร็งหลอดอาหาร
รศ.ดร.นพ.อัษฎา เมธเศรษฐ
ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล