คำตอบจากคุณหมอกิตติศักดิ์
ชมประเสริฐ
จากงานเสวนาพลิกมุมมองใหม่เพื่อรับมือกับโรคมะเร็งครั้งที่
11
“การใส่แร่หลักๆ
ในปัจจุบันจะมีตัวชี้วัด
2
โรค
คือ มะเร็งปากมดลูก
กับมะเร็งต่อมลูกหมาก
แต่ที่โรงพยาบาลเราไม่ได้ใส่ในต่อมลูกหมาก
เพราะฉะนั้นทั้งหมดก็จะเป็นคนไข้มะเร็งปากมดลูก
โพรงมดลูก มันต่างกันอย่างไร?
ฉายแสง
กับใส่แร่ ฉายแสงให้เรานึกว่ามันเป็น
outside
in คือการรังสีที่ตัวเครื่องฉายเข้าไปในตัวคนไข้
outside
แล้ว
in
เข้าไป
แต่การใส่แร่คือการนำกัมมันตรังสีเข้าไปวางไว้ประชิดก้อนที่สุด
แล้วให้กัมมันตรังสีนั้นแผ่ออกมา
เราก็เรียกว่า inside
out คือแผ่จากข้างในออกมารอบนอก พอใส่เข้าไปปุ๊บ
ในตำแหน่งที่ต้องการ
เราก็ส่งให้นักฟิสิกส์
เค้าก็โหลดแร่ไปตามแผนว่าจะแผ่ระยะเท่าไหร่
ครอบคลุมอะไรบ้าง พอเราเอาคนไข้ไปโหลด
คนไข้จะนอนอยู่ในห้องคนเดียว
โหลดได้ตามโดสนั้นที่หมอต้องการ
และเครื่องก็จะชักแร่กลับเข้าไปในตัวเครื่อง
ถอดอุปกรณ์ออกจากช่องคลอดคนไข้
คนไข้ก็จะเดินเปล่ากลับบ้านไปเลย
ไม่มีอะไรติดตัว อุ้มลูก
อุ้มหลาน
เข้าใกล้เด็กเล็กได้ตามปกติ ซึ่งอันนี้ไม่ใช่การฝั่งแร่เหมือนเมืองจีนนะครับ
อันนี้จริงๆ
มันเรียกว่าเป็นการฝังแร่
ซึ่งการฝังแร่ ใส่แร่
มันก็จะแยกย่อยออกไปอีก
ที่ผมเล่าเมื่อกี้ คือ
เป็นการใส่แบบชั่วคราว
ใส่แล้วก็ดึงแร่ออก อีกอันหนึ่งคือ
การฝังถาวร อันนี้ก็คือจะเผาไปพร้อมศพเลย
คือฝังแล้วไม่เอาออก
ข้อบ่งชี้เดียว คือ
มะเร็งต่อมลูกหมาก
ก็คือจะฝังลงไปในต่อมลูกหมาก
ฝังไว้ตลอดชีวิตไม่ได้นำออก ฝังไปจนหมดค่าครึ่งชีวิตของแร่
คือหมด Half-Life
ของแร่
ทีนี้ การจะฝั่งบริเวณไหน
มันต้องผ่านการคำนวณทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้ว
แต่เอาจริงๆ บางทีที่จีนเค้าก็ทำออกแนวเถื่อนๆ
มันไม่เป็นไปตามหลัก Radio
protection คือ
ความปลอดภัยทางด้านรังสีนะครับ
คือถ้ามันมา Explode
กับคนอื่นก็จะเป็นอันตราย
เพราะรังสีเป็นอะไรที่เรามองไม่เห็น
มันไม่เหมือนอะไรที่มีแสงวาบ
หรือทำให้เราร้อน อันนี้เรายังรู้ตัว
แต่อันนี้เป็นอะไรที่เดินปะปนกับเรา
โดยที่เราไม่มีทางรู้เลย”