อณัญญา อัศวเวทิณ เรียนรู้คุณค่าของชีวิต อยู่กับมะเร็งปอดระยะ 4 อย่างปกติสุข  

จนถึงตอนนี้ การเดินทางต่อสู้กับมะเร็งปอด (Squamous Cell Carcinoma) ระยะที่ 4 ของ โบ-อณัญญา อัศวเวทิณ ดำเนินมาเป็นเวลา 2 ปีกับอีก 7 เดือนแล้ว ถือเป็นสังเวียนการต่อสู้ที่ไม่ง่ายไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เพราะชนิดของมะเร็งที่เธอเป็นอยู่ยังไม่มียารักษาให้หายขาด ในเวลานี้จึงทำได้เพียงประคองชีวิตอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ บนเส้นทางการรักษาที่เปรียบเหมือนการว่ายน้ำท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่มีคลื่นลมและกระแสน้ำเชี่ยวกราก โบบอกกับเราว่า เธอได้พบความโชคดี เพราะได้เรียนรู้และเติบโตจากความทุกข์และความกลัว ขณะเดียวกันเธอได้รับความสุขและถูกโอบกอดด้วยความรักจากคนรอบข้างมากมาย ได้เจอเรื่องน่ายินดีและยินร้ายปะปนกันไป ได้สัมผัสกับชีวิตหลากสีสันไม่ใช่แค่ดำกับขาว เธอรู้ดีว่าชีวิตของตัวเองอาจไม่ยาวนานเท่ากับอายุขัยเฉลี่ยของคนทั่วไป นั่นจึงทำให้ผู้หญิงแข็งแกร่งคนนี้ใช้เวลาทุกนาทีที่มีอยู่อย่างมีความสุขและรู้คุณค่าที่สุดกับทั้งตัวเธอเอง คนที่เธอรัก รวมถึงเพื่อนร่วมโรคที่เธอพร้อมเป็นกำลังใจให้พวกเขาเสมอ 

มะเร็งปอด ชนิด Squamous Cell Carcinoma 

“ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2020 โบไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนเป็นปกติ หลังจากช่วงเวลานั้น โบเริ่มมีอาการไอเหมือนเป็นหวัด ซึ่งใกล้กับช่วงที่โควิดกำลังจะระบาดพอดี ตอนแรกคิดว่า…หรือเราจะเป็นโควิดนะ เลยไปหาหมอ 2-3 ครั้ง ได้ยาแก้หวัดมากิน แต่ยังไม่ดีขึ้นและยังไออยู่อย่างนั้น 2-3 เดือน ช่วงนั้นโบเรียนเพิ่มเติมเพื่อมาช่วยงานที่บ้าน ซึ่งการเรียนค่อนข้างหนัก เลยไม่ได้ไปแอดมิดเพื่อรักษาอย่างจริงจัง ไปแค่คลินิกเพื่อรับยา จนจบคอร์สเรียน เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียด ทั้งสแกน เอ๊กซเรย์ และพบว่ามีก้อนที่ปอด 

“ตอนที่เจอ โบอายุ 25 ย่าง 26 คุณหมอดูแนวโน้มว่าวัยประมาณนี้ไม่น่าจะมีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งปอด เพราะมะเร็งชนิดนี้มักพบในผู้ชาย ผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง และสัมพันธ์ไปกับการสูบบุหรี่ ซึ่งโบไม่ได้เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงและไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง แม้ว่าลักษณะก้อนมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นมะเร็งปอดอยู่ 80-90% แต่คุณหมอยังแบ่งใจว่าอาจจะเป็นวัณโรคหรือปอดอักเสบก็ได้นะ จนได้ส่องกล้องเจาะชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจ แต่กว่าจะพบว่าเป็นมะเร็งโบต้องผ่านการตรวจที่ซับซ้อนพอสมควร ต้องพบหมอเฉพาะทางหลายแผนก ทั้งคุณหมอโรคทางเดินหายใจ การปรึกษากับศัลยแพทย์ทรวงอกที่แนะนำให้ผ่าออกเพราะก้อนมีขนาดใหญ่ และยากไปอีกตรงที่ก้อนเนื้ออยู่ติดกับหัวใจ กระบวนการผ่าตัดของโบกินเวลา 15 วันในโรงพยาบาล ผ่าตัดอยู่ 5 ครั้ง โดยคุณหมอพยายามจะรักษาชิ้นเนื้อปอดของเราให้ได้มากที่สุด และพยายามจะตัดแค่ก้อนออกไป ระหว่างที่ผ่าปอดปีกบนด้านซ้ายเพื่อนำก้อนออกก็พบว่าปอดปีกล่างซ้ายของโบแฟบ จึงต้องเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบและจำเป็นต้องผ่าปอดปีกซ้ายออกทั้งหมดเลย ทำให้โบเหลือปอดเพียง 1 ข้าง และยังมีผ่าตัดเล็กด้วยการส่องกล้องอีก 3 รอบ เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างหนักเลยทีเดียว 

“ด้วยคุณหมออยากรู้ถึงต้นตอจริงๆ ว่ามาจากอะไร เพราะอย่างที่บอกว่าชนิดมะเร็งที่โบเป็นมักเกิดกับคนแก่ โอกาสที่จะเกิดกับคนวัยโบที่เป็นผู้หญิง แถมไม่สูบบุหรี่ด้วยค่อนข้างน้อย คุณหมอเลยใช้เวลาและเอาชิ้นเนื้อส่งไปตรวจที่อเมริกา แต่สุดท้ายก็ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งระหว่างรอ มะเร็งของโบลามไปประมาณ 4-5 จุดในร่างกาย ทั้งไต หลอดลม เนื้อเยื้อหุ้มปอด และต่อมน้ำเหลือง ระยะของโรคจึงกลายเป็นระยะ 4 นั่นคือระยะแพร่กระจาย เลยต้องให้คีโม 

“โบเปลี่ยนยามาหลายตัว จากคีโมชนิดแรกที่แพ้ มาเป็นคีโมตัวที่สอง มาเป็นตัวภูมิคุ้มกันบำบัด เชื้อยังมะเร็งลามเยอะ คุณหมอเลยเปลี่ยนมาให้ฉายแสงควบคู่กับทานยาคีโม ซึ่งตอบสนองค่อนข้างดี โบสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ คุมโรคอยู่ประมาณเกือบ 1 ปี จนกระทั่งปัจจุบันมีอาการดื้อยาเลยได้เปลี่ยนมาทดลองการรักษามะเร็งด้วยการใช้ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) ควบคู่ไปกับการฉายแสง สำหรับยามุ่งเป้าที่โบกำลังทดลองชื่อ Afatinib ซึ่งต้องรอดูผลว่าจะตอบสนองกับยาตัวนี้กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะยาตัวนี้มักจะตอบสนองดีกับยีนส์ที่มีการกลายพันธุ์หรือมะเร็งปอดชนิด Adenocarcinoma แต่โบยังมีความหวังและเป้าหมายในการตื่นมาใช้ชีวิตเสมอนะคะ ยิ่งถ้ามีคนที่พร้อมเดินไปกับเรา ทั้งครอบครัวและคุณหมอที่ยังสู้และพยายามหาเส้นทางใหม่ๆ ให้ โบก็จะยังเดินหน้าสู้ต่อไปเหมือนกันค่ะ” 

จังหวะชีวิตที่ช้าลง

“เอาจริงๆ ตอนที่ป่วยแรกๆ โบไม่กลัวเลยนะคะ เพราะตอนนั้นเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวโรคมากนัก คิดว่าเดี๋ยวก็คงหาย ไม่เป็นไรหรอก แต่พอเริ่มรู้จักตัวโรคมากขึ้น คุณหมอค่อยๆ หยอดข้อมูลเราในทุกๆ ครั้งที่เจอกันว่าโรคเราไม่มีทางหาย ต้องอยู่กับตัวเราไปตลอดนะ ยิ่งตอนนี้ระยะที่ 4 ด้วย เวลาที่อยู่บนโลกนี้อาจจะไม่ยาวนานนัก ตอนนั้นแหละค่ะที่ทำให้เราเริ่มกลัว แล้วมาเจออาการแพ้คีโมในครั้งที่ 2 แบบที่โบช็อกไปเลย ซึ่งเราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนกับชีวิตที่คาบเกี่ยวอยู่บนเส้นของความเป็นและความตาย ครั้งนั้นทำให้โบกลัวการให้คีโมมาตลอด กว่าจะยอมรับและปรับตัวที่จะอยู่กับโรคและการรักษาได้ก็ใช้เวลาเป็นปี 

“แต่พอได้รักษาและได้รู้จักมะเร็งผ่านความกลัว ผ่านเหตุการณ์อะไรต่างๆ มามากมาย ก็ทำให้โบรู้สึกว่าถึงแม้ว่าเราจะเป็นโรคร้าย แต่เรายังสามารถใช้ชีวิตอยู่กับโรคและใช้ชีวิตได้ตามปกติได้นะ สามารถที่จะไม่เครียดและไม่กังวลกับมันมากเกินไปได้ ยิ่งปัจจุบันที่มียาและวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ไปได้เร็ว โบได้ลองยาใหม่ๆ เยอะมาก ทุกครั้งที่กลับไปโรงพยาบาล โบเห็นวิวัฒนาการแทบทุกครั้ง ซึ่งเป็นความหวังสำหรับผู้ป่วยมะเร็งมากกว่าสมัยก่อนมากเลย

“ส่วนการใช้ชีวิตก่อนและหลังการเป็นมะเร็ง โบเปลี่ยนแปลงไปเยอะ แต่ก่อนโบเป็นคนที่คิดมาก ทุกอย่างจะเป็นพลังงานเชิงลบ ชอบกดดันตัวเอง เครียดกับเรื่องงาน อยากประสบความสำเร็จไว ไม่ชอบพัก ไม่ชอบนอน โบรู้สึกว่าการนอนทำให้เสียเวลา โบแค่นอนวันละ 3-4 ชั่วโมงเอง แล้วใช้ชีวิตอย่างนั้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เรียนจบ แต่ตอนนี้โบใช้ชีวิตด้วยความผ่อนคลายขึ้นมาก ใช้ชีวิตเหมือนคนวัยเกษียณแบบนั้นเลยค่ะ แล้วเป้าหมายในชีวิตตอนนี้ โบไม่ได้ต้องการจะมีเงินเป็นสิบล้าน มีบ้านหลังใหญ่มีอะไรขนาดนั้นแล้ว ขอแค่ตื่นมามีชีวิตอยู่และมีชีวิตที่มีความสุขในแบบของตัวเองก็เพียงพอแล้วค่ะ” 

เบาใจเพราะรู้จักวาง

ในวัย 28 ปี โบยังคงสดใสอยู่เสมอ ปัจจุบัน นอกจากการช่วยธุรกิจครอบครัวที่เป็นบริษัทอินทีเรียและขายกระเบื้องยาง เธอยังเปิดเพจ Messy Bo ใน facebook และช่องทางโซเชียลอีกมากมาย เช่น Tiktok, IG, Lemon8 โดยใช้ชื่อ username ว่า boanunya เพื่อเป็นแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตและเป็นพื้นที่พักใจให้กับผู้ป่วย พร้อมๆ ไปกับการใช้เวลาว่างกับกิจกรรมต่างๆ ที่เธอรัก

“โบทำกิจกรรมเยอะมาก การท่องเที่ยวยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่ชอบอยู่ แต่ก่อนเราจะเที่ยวแบบลุยๆ หน่อย ปัจจุบัน โบเที่ยวแบบสบายๆ เพื่อให้ไม่รบกวนร่างกายมากเกินไป นอกจากนี้ก็จะทำกิจกรรมที่ทำให้สบายใจ เช่น ไปเวิร์กช็อปงานศิลปะต่างๆ เมื่อก่อนโบไม่ค่อยอ่านหนังสือเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กลับอ่านหนังสือที่ให้พลังบวกมากขึ้น โบยังไปโบสถ์ทุกสัปดาห์เพราะโบนับถือคาทอลิก ขณะเดียวกัน ก็มีโอกาสได้ฝึกนั่งสมาธิโดยเปิดยูทูปแล้วปฏิบัติตามอยู่ที่บ้านด้วย ทุกครั้งที่เริ่มทุกข์ เริ่มฟุ้งซ่านจากความคิดตัวเอง การนั่งสมาธิทำให้สามารถดึงสติของตัวเองขึ้นมาได้ พอคิดว่าเหตุของทุกข์คืออะไร เราแก้ปัญหาได้ไหม ถ้าแก้ได้โบจะแก้ แต่ถ้าแก้ไม่ได้โบจะใช้สูตรช่างมันและเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่อยากทำแทน

“นอกจากนี้ ทุกๆ วัน โบจะดีท็อกซ์ความคิดตัวเอง โดยจดลงสมุดว่าวันนี้เรารู้สึกอย่างไรบ้าง มีความสุข มีความทุกข์ เจอปัญหาอะไร แล้วสรุปจากข้อความที่เขียนทั้งหมดด้วยเหตุและผลว่า เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์มาจากอะไร ผลคืออะไร พอได้ทบทวนตัวเอง ทำให้โบเห็นสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นชัดเจน เหมือนเราได้ถอยหลังมามองภาพกว้างกับสิ่งที่เราเผชิญอยู่ อะไรที่จัดการได้จะจัดการ อะไรที่เหนือการควบคุมก็จะไม่จมอยู่กับทุกข์นั้น โบมองตัวเองว่าเราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่จะพบทั้งความสุขและทุกข์เป็นปกติ เราเป็นมะเร็งก็จริง แต่เราแก้ปัญหาได้หนิ ถึงมะเร็งจะยังอยู่ แต่เราอยู่ด้วยกันได้นะ” 

กำลังใจจากฉันสู่เธอ

“อย่างที่บอกว่าการรักษาของโบทั้งยากและซับซ้อน ซึ่งสิ่งที่ทำให้อยู่กับโรคและการรักษาได้จริงๆ คือกำลังใจจากคนรอบข้าง ตั้งแต่ครอบครัว สามี เพื่อนๆ รวมทั้งทีมแพทย์ที่ดูแลโบมาตลอด โบซาบซึ้งกับความทุ่มเท ใส่ใจ ไม่เคยทิ้งเราไปไหน พร้อมจะสู้ไปกับทุกปัญหาของเรา อยู่กับเราในวันที่มีความสุข โบเห็นพวกเขาอยู่ตรงนี้เสมอโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน โบรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคดีมากคนหนึ่ง สิ่งที่อยากตอบแทน คือการไม่ทำให้พวกเขาเครียดไปกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องมากังวลถึงอนาคตว่าพรุ่งนี้ฉันจะตายนะ โบจะไม่ทำให้เขาทุกข์ และโบอยากจะบอกตัวเองเราว่าเธอสุดยอดมาก เก่งมากๆ เลย ไม่รู้ว่าจะมีใครเก่งได้ขนาดนี้แล้ว โบชมตัวเองทุกวัน เธอเก่ง เธอสวย ถ้าตรงไหนที่ยังไม่ดี ที่เป็นข้อเสียของตัวเอง โบจะให้อภัยตัวเองได้ไวขึ้นค่ะ

“โบเป็นคนคนหนึ่งที่มีความท้อเหมือนทุกๆ คน แต่โบชอบพูดกับตัวเองว่าท้อเป็นผลไม้ที่มีทั้งรสเปรี้ยวและหวาน ชีวิตเราเกิดมาก็เป็นแบบนั้น มีหลายรสชาติให้ได้ซึมซับ เรียนรู้ และเข้าใจอยู่ทุกวัน เราท้อได้นะคะ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย แต่โบอยากบอกทุกคนว่าอย่าเพิ่งหมดหวัง อย่าคิดล่วงหน้าไปไกลจนลดทอนกำลังใจตัวเอง ไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกที่จะเจอแต่ความสุข เช่นเดียวกัน ไม่มีใครเลยที่จะเจอแต่ความทุกข์ ดังนั้น โบอยากให้ทุกคนสู้เต็มที่ในขีดความสามารถที่ทำได้ อย่ากดดันตัวเองจนเกินไป และขอให้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่ากับเวลาที่มีอยู่ ใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบของเรา และทุกคนจะมีโบเป็นคนหนึ่งที่จะอยู่เป็นกำลังใจให้ตรงนี้เสมอค่ะ” 

เรื่อง: สุดาพร จิรานุกรสกุล
ภาพ: ศรัณย์ แสงน้ำเพชร
ภาพเพิ่มเติม: www.facebook.com/messyy.bo  
IG, Tiktok, Lemon8: boanunya

Share To Social Media